วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การตรวจแบบ : ข้อเสนอแนะ และรูปแบบที่ต้องการ

อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องผิดดหวังหลังจากการตรวจแบบที่ผ่านมาซึ่งดูเหมือน การทำงานและผลงานที่ออกมานั้นดูแล้วไม่ได้ใกล้เคียงกับที่ผู้ใช้งานต้องการเลย  ประเด็นอยู่ที่ว่า เรากำหนดเป้าหมาย และทำความเข้าใจในรุ่งอรุณไม่ชัดเจนพอ หรือความหนักแน่นในเป้าหมายยังไม่มากพอ

จากการสรุปในการตรวจแบบครั้งนี้ ทำให้เข้าใจประเด็นสำคัญๆ ที่ยังคงขาดไป หรือไม่ชัดเจนเช่น
1.การทำความเข้าใจเป้าหมาย ของรุ่งอรุณ และของตัวเองนั้น ยังไม่ชัดเจน
2.จุดที่สำคัญในพื้นที่ เราต้องการที่จะนำเสนอจุดไหน โรงช้าง หรือบึง ซึ่งจากผู้ใช้งานให้ความสำคัญกับบึงมากกว่า
3.การจัดว่าอาคาร ที่เป็นระเบียบ เป็นรูปแบบจนเกินไป ขาดความน่าสนใจให้กับนักเรียนและผู้ใช้งาน
4.พื้นที่ว่างเป็นสิ่งสำคัญ การแบ่ง พื้นที่เล็กพื้นที่น้อย แต่ยังคงไม่เชื่อมถึงกัน นี้คือปัญหาในการจัดการพื้นที่ว่า ควรจะแบ่งและจัดการให้เกิดการเชื่อมโยงกัน หรือ รวมกัน ให้เกิดพื้นที่การใช้งานขนาดใหญ่ และใช้บริบทโดยรอบเป็นตัวจัดการหรือสงเสริมศักยภาพในการใช้พื้นที่
5.การรับรู้้ต่อพื้นที่ ตั้งแต่ทางเข้า เราอยากที่จะค่อยๆ แล้วเปิดให้เห็น หรือ เข้ามาและเห็นเลย โดยทางผู้ใช้งานนั้น นับตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้ามายังพื้นที่
6.การปิดล้อมพื้นที่ ยังคงต้องมีอีกไหม หรือ จะจัดการยังไง ให้ปิด แต่ไม่รู้สึกว่าปิด และไม่ได้ดูว่าปิด
7.การคิดเรื่องแรงบันดาล ใจของผู้ใช้งาน และพื้นที่สนุกสนานสำหรับเด็ก นั้นยังไม่ได้ปรากฏ
8.รูปร่างของอาคาร ที่ยังคงไม่ดึงดูด ดูเรียบง่ายเกินไป ไม่ตื่นเต้น
9.พื้นที่แสดงศิลปะเป็นสิ่งที่สำคัญ


วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559

MLC : MAHIDOL LEARNING CENTER
Community Engagement



อาคารศูนย์การเรียนรู้มหิดลนั้น ถูกออกแบบและจัดตั้งขึ้นเพื่อให้เกิดชุมชนที่สร้างประติสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษา เจ้าหน้าที่ และบุคคลภายนอก และยังคงเป็นพื้นที่ ที่ต้องการแสดงถึงความเป็นมหิดลความต้องการที่จะปลูกฟังวิธี คุณค่าและภาพลักษณ์ของสถาบันให้กับนักศึกษาที่ใช้เวลาเพียงน้อยนิดก่อนที่จะจากบ้านหลังนี้ไป ได้ซึมซับคุณค่าและความเป็นมหิดลต่อไป




 ซึ่งจากเป้าหมายที่กำหนดนั้น การจัดว่างอาคารให้เข้ากับบริบทโดยรอบ และการใช้ประโยชน์จาการจัดว่างที่ตั้งมาใช้ให้เกิดเป้าหมาย อย่างเช่นการจัดว่างให้อาคารอยู่ บนเส้นทางสัญจรของเหล่านักศึกษาที่เดินทางออกจากหอพักและต้องมุ่งตรงไปยังอาคารเรียนของตนโดยจำเป็นที่ต้องผ่านเข้าไปยังตัวอาคารศูนย์การเรียนรู้มหิดล ซึ่งเป็นการสัญจรที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งมองแล้วมีความสามารถที่จะส่งเสริมให้เกิดประติสัมพันธ์ขึ้นภายในพื้นที่



โดย เป้าหมายหลักหรือ concept ในการออกแบบนั้นมีอยู่ด้วยว่า
1.การเป็นสถาปัตยกรรมแห่งการเปลี่ยนผ่านความเป็นมหิดล
2.สถาปัตยกรรมเพื่อการปลูกฝังคุณค่าและจิตวิญญาณความเป็นชาวมหิดล
3.สถาปัตยกรรมเพื่อการเรียนรู้อย่างบูรณาการ Group Learnning Multipisciplinary



4.สถาปัตยกรรมเขตร้อนชื้อ เพื้อการประยัดพลังงาย



ทางเข้าหลักของอาคารซึ่งอยู่บนทางผ่านของนักศึกษา





  อีกทั้งการเสริมสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในพื้นที่ การทำความรู้จัก การเข้าใจในความเป็นมหิดล นอกจากหอประวัติพระราชบิดาโถงแสดงเกียรติประวัติและผลงานศิษย์เก่า และลานสำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ บนแกนที่เกิดจากการใช้งานและทางสัญจร ผู้ออกแบบยังตั้งใจให้เกิด แนวแกนอีกแทน ที่ไม่ได้เป็นฟังชั่นแต่อย่างใด แต่เป็นเชิงสัญญาลักษณ์ที่เกิขึ้นของมาหิดล ว่างทับลงบนแกนเกิดเป็นรูปกากบาท



ผังแสดงแกนความสำพันธ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ MLC



แนวแกนที่มีพระราชบิดาอยู่ตรงปลายทาง


   โดยภายในพื้นที่ได้ออกแบบให้ มีพื้นที่ในการทำกิจกรรม การพบปะ พื้นที่รวมตัว อีกทั้งความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ



รูปแบบของการเปิดพื้นที่ให้เกิดความสัมพันธ์


ซึ่งในประเด็นที่สนใจนั้นเป็นเรื่องการจัดสันพื้นที่ และการเปิดช่องว่าง ลดกำแพงเพื่อที่จะทำให้เกิดความสัมพันภายในพื้นที่



การออกแบบให้เกิดชั้นลอยในระดับต่างๆ เพื่อให้เกิดการมองเห็นกิจกรรมต่างๆซึ่งกันและซึ่งระดับความสูงในแต่ละชั้นนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนักเพื่อเอื่อให้เกิดการมองเห็น


แม้กระทั้งพื้นที่รับประทานอาหาร ยังคงทำให้เกิดช่องเปิดเพื่อให้เห็นกิจกรรมต่างและยังคงเป็นการจัดการเรื่องช่องลมที่ทำให้พื้นที่ในเปิดโล่งและควบคุมทิศทางของลม

สุดท้ายจากการสังเกตและการได้รับฟังแนวทางซึ่งทำให้ชัดเจนในความรู้ที่ได้ นอกเหนือจากเรื่องของช่องเปิด การทำชั้นลอย แต่ยังคงได้เรียนรู้ถึงวิธีการเสริมสร้างสิ่งที่มีอยู่เดิมและต่อยอดให้เกิดคุณค่าให้กับผู้ใช้งาน





























วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เยี่ยมชมบ้านพี่ปาร์ม


เรานั้นต่างใฝ่ฝันถึงบ้านที่ดูหรูหรา ใหญ่โตให้ความสะดวกสบายแก่เราเป็นที่สุด นี้เป็นอีกหนึ่งบ้านที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้อยู่อาศัยทั้งหมด เราจะพบเห็นความเรียบง่ายที่เกิดขึ้นจากความผสมผสานสิ่งต่างๆภายในบ้านที่สามารถตอบความต้องการของผุ้อยู่อาศัย  



หากพูดถึงการใช้ประโยชน์จากบริบทโดยรอบ การเข้าใจพื้นที่ของเราเองนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากที่จะทำให้การออกแบบของเรานั้นตอบโจทย์ต่อความต้องการ โดยสิ่งสำคัญนั้นคือการสัมผัส เราสัมผัสในสิ่งต่างๆโดยใช้ความรู้ถึง การมอง การได้ยิน การได้กลิ่นซึ่งทั้งหมดคือการสังเกต
 หากมองถึงความเป็นส่วนตัวโดยทั่วๆไปของตัวบ้านนั้น เราจะเห็นได้ว่า เมื่อเราเข้ายังชานและผ่านประตูเข้ามา ทุกส่วนประกอบนั้นดูแล้วเหมือนกับเป็นเพียงห้องยาวๆหนึ่งห้องที่มีทางเดินล้อมรอบ และสามารถที่จะวนรอบตัวบ้านได้โดยไม่สินสุด อีกทั้งรูปแบบของผังในแต่ละห้องที่เพดาเปิดโล่งแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงบนหลังคาแผ่นเดียว ซึ่งแสดงออกถึงความเป็นอันหนึ่งเดียวของบ้าน


























ห้องนอนที่บนห้องใต้หลังคา ซึ่งขึ้นจากด้านในของห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ของพี่ปาร์ม แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมภายในบ้านของพี่ปาร์ม ที่จะมีการพบหน้าลูกชายทุกวันที่คุณพ่อและคุณแม่เข้ามาอยู่และอีกหนึ่งก็คือความเป็นห่วงเป็นใย และห้องด้านบนนั้นถูกจัดอยู่ในตำแหน่งที่สามารถที่จะมองออกไปได้รอบทิศทางและครอบคลุมพื้นที่ ตั้งแต่ทางเข้า มาถึงตัวบ้าน

ซุมประตูทางเข้าที่ดูเรียบง่ายทำหน้าที่ในการเป็นตัวกำหนดขอบเขตของตัวบ้านหลังนี้


อีกหนึ่งความต้องการ และการออกแบบเพื่อให้ตอบรับต่อลักษะของพื้นที่


  สุดท้ายแล้วสิ่งที่ได้จากการเยี่ยมชมครั้งนี้ ของจากความรู้เรื่องวัสดุ แนวทางการออกแบบ และลักษณะของตัวบ้านนั้น การสังเกตและการใสใจนั้นมีผลเป็นอย่างมาก เราควรที่จะเริ่มฝึกที่จะรับรู้ในการสัมผัสสิ่งต่างๆรอบตัวทั้งผู้คนและธรรมชาติ รวมทั้งความรู้สึก เพื่อให้เราเข้าใจผู้ใช้งานและบริบทโดยรอบ



































ครุสติสถาน

ครุสติสถานพื้นที่ของการสงบจิตใจ 

  สถาปัตยกรรมที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้งานและความรู้สึก จุดเด่นที่สำคัญของครุสติสถานนั้น คือ ธรรมชาติภายในที่ให้ประโยชน์แกตัวสถาปัตยกรรม ธรรมชาติสีเขียว ความร่มรื่นและสายร่มที่พักผ่านโดยรอบ นั้นถูกสร้างให้เกิดความสงบขึ้นภายในพื้นที่
  การเจริญภาวนาจิตใจนั้นจำเป็นที่เราจะต้องใช้สถาวะโดยรอบตัวเราและจิตในการควบคุมความรู้สึกนึกคิด ให้เกิดสมาธิเช่น ความเงียบสงบที่ถูกจัดโดยธรรมชาติ ความนิ่งของอากาศ และความร่มรื่น ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกใช้ในสถาปัตยกรรมแห่งนี้





















การใช้ธรรมชาติในการสร้างความรู้สึกที่สงบ สีเขียวที่มองแล้วรู้สึกถึงความนุ่มลึกในขณะ


  การจัดวางพื้นที่นั้น ถูกแบ่ง พื้นที่พักผ่อนกับพื้นที่ที่มีการใช้งาน ไว้อย่างชัดเจน ซึ่ง จะไม่เกิดการรบกวนขึ้นภายในพื้นที อีกทั้งโดยรอบพื้นที่ยังคงมีคลอง และบึงอยู่ล้อมรอบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวสร้างความรู้สึกต่อสถานที่


การปลูกไม้ดัดเป็นเหมือนกับผนังเพื่อใช้ในปิดและกลั้นขอบเขตของที่พัก ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวและยัง    คงไว้ถึงความรู้สึก




และนี้เป็นหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ ของพื้นที่ที่ใช้ในการเดินจงกรม ซึ่งถูกออกแบบไว้เป็นเพียงพื้นที่แคบๆ และแบ่งพื้นที่เป็นส่วนบุคคล โดยใช้แนวของต้นไม้เป็นตัวกลั้นพื้นที่โดยรอบ หากมองดูแล้วก็เหมือนกับแคปซูลที่วางเรียงกันไป และมีผู้คนใช้งาน ในการเดินไปเดินกลับ เจริญสมาธิเพียงลำพัง




























สุดท้ายจากการที่ได้ไปเยี่ยมชม ครุสติสถานนั้น ทำให้เราได้เห็นถึงการจัดวางที่แยกออกจากกันของพื้นที่ใช้งานกิจกรรมและพื้นที่พักผ่อน และที่สำคัญคือการใช้ธรรมช่ติมาจัดการพื้นที่ ทั้งในด้านการกำหนดขอบเขต บังสายตา เป็นร่มเงา และยังสงผลต่อความรู้สึกที่จะทำให้เกิดความสงบขึ้นในจิตใจของเรา


















วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559

บ้านตะวันออก ในประเด็นที่สนใจ


บ้านตะวันออก บ้านที่มีการจัดการ การรับรู้ในด้านต่างๆทั้งความรู้สึกในการรับรู้ธรรมชาติ ความเย็นสบายในตัวอาคาร ที่ส่งผลให้เกิดความสบายแก่ตัวผู้อาศัย โดยความรู้สึกส่วนใหญ่ในบ้านนั้นเป็นการออกแบบให้รับรู้ต่อธรรมชาติโดยรอบของพื้นที่ ซึ่งเป็นการจัดวางต้นไม้ในลักษณะต่างๆโดยรอบของตัวบ้าน เหมือนกับบ้านนั้นถูกปกคลุมด้วยต้นไม้สูง ซึ่งในที่นี้ ต้นจามจุรีกลางสวนนั้น ส่งผลต่อความรู้สึกต่อผู้อาศัยได้ชัดเจนที่สุด
     การเปลี่ยนผ่านพื้นที่ โดยสามารถรับรู้ได้โดยตรงถึงความเย็นสบาย พื้นที่ที่มีร่มเงา มีความชื่นจากตนไม้ก่อให้เกิดความเย็น จากทางเข้าบ้านและเข้ามาในบริเวณบ้าน


ความร่มรื่นที่ทำให้เกิดความสบายภายนอกอาคาร ซึ่งส่งผลต่อการรับรู้ต่างๆต่อผู้อาศัยภายในบ้าน และลักษณะของตัวบ้านที่เป็นการยกใต้ถุนสูง เกิดไหลและการถ่ายเทอากาศ ที่ถอดมากจากบ้านไทยซึ่งสอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของบ้านเรา


ซึ่งประเด่นที่สนใจนั้น คือลักษณะที่พบในพื้นที่ซึ่งมีแสงเข้ามายังตัวอาคาร โดยหน้าที่ที่สงผลต่อผู้อาศัพและคุณภาพนั้นต่างออกไป เรามองเห็นลักษณะที่สนใจสองประเภทคือ แสงที่ก่อให้เกิดความรู้สึกในพื้นที่ และแสงที่จัดการเรื่องอุณหภูมิภายในพื้นที่












ซึ่งมองจำเป็นที่จะหาข้อมูลและศึกษาในประเด็นนั้นๆต่อ เพื่อหวังว่าจะนำความรู้มาใช้ในงานออกแบบและสามารถที่จะนำมาประยุคได้กับการใช้งานในประเภทต่างได้






















วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

ประเด็นที่สนใจในพื้นที่

     
    จากการลงสำรวจพื้นที่ในการออกแบบซึ่งเป็นบริเวณของรุ่นอรุณนั้น ก็จะพบเห็นถึงพื้นที่ที่น่าสนใจต่างๆมากมาย รวมทั้งกระบวนการในการเก็บข้อมูลที่เราใช้ความรู้สึกเป็นส่วนใหญ่ในการสัมผัสกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพื้นที่ออกแบบ อีกทั้งกการแบ่งขอบเขตต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น จากการที่เกิดจากต้นไม้ สิ่งปลูกสร้าง หรือพื้นที่ซึ่งแตกต่างออกไป โดยจากการสังเกต และข้อมูลที่ได้ เราจะนำประเด็นที่สนใจ ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นไปวิเคราะห์เพื่อที่จะหาความสัมพันธ์ที่เชื่อโยงกับส่วนต่างๆ



จากที่สังเกตทางเข้าที่สำคัญของพื้นที่ออกแบบ คือบริเวณ ทางก่อนเข้าถึงวงเวียนซึ่ง มีพุ่มต้นไม้ซึ่งเป็นต้นไทรกับตนไผ่ โดยเอนเอียงเข้าหากันทำให้เกิดลักษณะของซุ้มทางเข้า เกิดความรู้สึกของการเปลี่ยนผ่านพื้นที่ จากส่วนจอดรถเข้าไปยังวงเวียน ซึ่งเปลี่ยบเสมือนทางเข้าหลักของพื้นที่ออกแบบ




ในส่วนของพื้นที่ใกล้เคียงติดกับพื้นที่ออกแบบ อย่างโรงช้างซึ่งมีการกำหนดขอบเขตของตัวอาคารกับพื้นที่ด้านนอกด้วยรูปแบบการบังคับการมองและเน้นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นตัวกำหนดขอบเขตของพื้นที่ในการออกแบบ และยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เกิดขึ้นในบริเวณรอบพื้นที่ออกแบบ





และสิ่งสำคัญ ของพื้นที่ซึ่งให้ความรู้สึกต่อพื้นที่ธรรมชาติได้ดี คือ บึงน้ำ ซึ่งติดกับพื้นที่ออกแบบ โดยเราสังเกตได้จากการใช้งาน ความรู้สึก และคำบอกเล่าของผู้ใช้งาน ว่าบึงมีความสำคัญเช่นไร

ซึ่งจากข้อสังเกตทั้งหมดนั้น ยังมีกระบวนการและประเด่นอื่นอีกๆ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์สถานที่และพื้นที่โดยรอบ เพื่อเข้าใจความสำพันธ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ การหาความหมายและคุณค่า รวมทั้งสรุปเป็น เป้าหมาย หรือขอบเขตในการออกแบบอีกต่อไป